เรื่องง่ายๆที่ต้องใส่ใจ

Browse By

เรื่องง่ายๆที่ต้องใส่ใจ

ความสะอาดมาเป็นอันดับหนึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องเกี่ยวข้องกับผิวพรรณ ควรอย่างยิ่งที่ต้องสะอาด
ก่อนใช้มือทาครีมที่ผิว ถามมือเสียก่อน สะอาดพอหรือยัง
เส้นผมก็ต้องสะอาด เพราะเส้นผมเป็นส่วนที่ใกล้ชิดกับผิวหน้ามากที่สุด หากเส้นผมสกปรกอาจทำให้เป็นสิวที่ผิวหน้าได้
จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาบน้ำก่อนเข้านอน อย่าลืมว่า คราบเหงื่อไคล ฝุ่น ควัน และละอองไขมัน จากสภาวะแวดล้อมที่ติดตัวเรามาสามารถเข้าไปอุดตันในรูขุมขนได้ ซึ่งเป็นตัวการทำให้เกิดเม็ดสิวหรือผื่นคัน
ผ้าขนหนูที่ใช้ควรแยกใช้สำหรับเช็ดหน้า และเช็ดตัว ผ้าปูที่นอนปลอกหมอน และผ้าห่มก็ต้องสะอาด ควรชักทุกสัปดาห์
อย่าได้หลงเหลือคราบเครื่องสำอางไว้บนผิวหน้าแม้เล็กน้อย ควรเช็ดออกให้หมดจดชนิดที่ว่าเช็ดแล้วสำลีไม่มีคราบอะไรเลย
อุปกรณ์เครื่องลำอางที่ใช้ในการแต่งหน้า ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พัฟทาแป้ง ถ้าเริ่มสีเข้มทิ้งไปได้เลย เพราะสกปรกที่แฝงอยู่ในพัฟเป็นตัวการที่ทำให้เกิดสิว และที่สำคัญอย่าใช้พัฟร่วมกับคนอื่น

อย่าใจง่าย
คำว่า “ใจง่าย” ในที่นี้ หมายถึง อย่าหลงเชื่อคำโฆษณา อย่าเชื่อคำโอ้อวดจากคนอื่น อย่าเชื่อว่าของดีราคาแสนถูกจะมีให้ใช้จริง ๆ
และอย่าซื้อใช้ด้วยความเกรงใจ

เช็ควันผลิต และวันหมดอายุ
ทุกครั้งที่ชื้อผลิตภัณฑ์เพื่อความงามทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นครีมบำรุงผิว ลิปบาล์ม เครื่องสำอาง โฟมล้างหน้า สครับซัดผิว และ
มาส์กพอกหน้า ควรจะต้องสอดส่องสายตาดูวันเดือนปีที่ผลิต หรือวันหมดอายุด้วยทุกครั้ง มากไปกว่านั้นอาจเลือกชิ้นที่ผลิตมาใหม่ล่าสุด มีหลายคนที่มักไม่ค่อยสนใจเรื่องวันผลิต หรือวันหมดอายุ ก็เลยเจอแจ็คพ็อต ซื้อของที่ใกล้หมดอายุมา ยิ่งถ้าบางยี่ห้อมีการลด
ราคาขายกันถูก ๆ คือ ตั้งเคาน์เตอร์เชลล์กันโดยเฉพาะ ชัวร์! นั่นแหละ ใกล้หมดอายุแล้ว แบรนด์เนมด้วยนะคะ เซลล์กันถูก ๆ สครับขัดหน้า และมาส์กพอกหน้าหลอดละ 50-100 บาท เห็นมากับตาบางคนซื้อตุนกันไว้เพียบ โดยที่ไม่สนใจที่จะตรวจดูวันหมดอายุกันเลย สำหรับฉันแล้วไม่เห็นแก่ของถูกค่ะ อย่างแรกเลยต้องมองหาวันหมดอายุจ้า! อีกสองสามเดือนจะหมดอายุ แน่นอนคนที่ซื้อไปเพียบน่ะ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใช้ไม่ทันหรอกค่ะ พอผ่านไปสักระยะก็หยิบมาใช้โดยไม่รู้ว่ามันหมดอายุเสียด้วยซ้ำ

ใครที่โดนแจ็คพ็อต ดันไปหยิบของหมดอายุมาใช้ก็แย่หน่อย เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคือง เป็นผื่นแดงคันได้ หรือเกิดเป็นเม็ดสิวก็สุดแล้วแต่ ฉะนั้น เรื่องวันหมดอายุไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ซึ่งถ้าเผลอหยิบมาใช้ ไม่แน่ว่าค่ารักษาในกรณีที่ผิวเกิดอาการระคายเคืองจะแพงยิ่งกว่าค่าของที่ซื้อมาเสียอีก หากใครจะมองว่าการเลือกซื้อของอย่างพิถีพิถันเป็นการเรื่องมาก อย่าได้แคร์ เพราะธรรมชาติของทุกคน ย่อมต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง จริงมั้ยคะ

ระวังเรื่องระยะเวลาการใช้งาน
การใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งหลาย ใช่ว่าเราจะดูเพียงแค่วันเดือนปีที่ผลิต หรือวันหมดอายุเท่านั้น เพราะระยะเวลาการใช้งานของผลิตภัณฑ์นั้นสำคัญยิ่งกว่า หลายคนอาจไม่เข้าใจ หรือเป็นงง อ้าว! เล้วระยะเวลาการใช้งานกับวันเดือนปีที่ผลิต หรือวันหมดอายุ มันเหมือนกันเหรอ เชื่อแน่ว่า คงมีหลายคนอาจไม่เคยสังเกต สัญลักษญ์รูปกระป๋องทรงกลมมีฝาเปิดอยู่ด้านบน หรือรูปกระป้องเปิดนั่นแหละค่ะ ที่ด้านในจะตัวอักษร 6M หรือ 12M หรือ 24M เด่นชัดอยู่ ซึ่งสัญลักษณ์นี้หมายความว่า ผลิตภัณฑ์นี้ให้ใช้ภายใน 6 เดือน หรือ 12 เดือน หรือ 24 เดือน เท่านั้น

ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ถึงแม้ว่าจะยังไม่หมดอายุก็ตาม แต่ถ้าเราเปิดใช้แล้ว ทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์ได้สัมผัสกับอากาศ และบางครั้งอาจมี
แบคทีเรียเข้าไปปะปน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลิปบาล์ม แน่นอนว่า อาจถูกปนเปื้อนด้วยคราบลิปสติกและน้ำลาย หรือถ้าเป็นโรลออนระงับกลิ่น อาจถูกปนเปื้อนด้วยเหงื่อของเราเอง เพราะเหตุนี้ จึงทำให้อายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ประเภทนี้จะค่อนข้างสั้น ฉะนั้น เรื่องระยะเวลาการใช้งานจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรต้องระมัดระวัง หากอยากสวยนาน ๆ ก็ต้องฉลาดใช้ด้วยค่ะ

มีวินัยกับตัวเอง
สำหรับคนที่ต้องการคงความสวยอ่อนเยาว์ไว้เนิ่นนาน เรื่องการมีวินัยถือเป็นเรื่องสำคัญ ในแต่ละวันไม่ว่าคุณจะเร่งรีบ หรือยุ่ง
แค่ไหน การบำรุงบำเรอผิวพรรณทั้งปัจจัยภายนอก และภายในถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำให้เป็นกิจวัตร ตัวอย่างเช่น บางคืนเกิต
อาการขี้เกียจทาไนห์ครีมก่อนนอน แถมยังบอกตัวเองว่าแค่วันเดียวคงไม่เป็นไรหรอก หรือบางเช้าก็ลืมทาครีมกันแดด และไม่ได้ทาโลชั่นตามตัว หรือบางวันผลไม้สักชิ้นก็ไม่ได้ตกถึงท้องเลย อีกทั้งน้ำเปล่าก็ไม่ค่อยได้ดื่ม มัวแต่สังสรรค์กับเพื่อนฝูงเดินเข้าเดินออกก็แต่ร้านกาแฟหรู ๆ นั่นแหละ
คุณรู้หรือไม่ว่า การขาดวินัยเรื่องการบำรุงบำเรอผิว จะส่งผลให้เห็นอย่างเด่นชัด สังเกตได้เลยสำหรับคนที่เป็นประเภท เดี๋ยวทา
ครีมบ้างไม่ทาบ้าง พอวันหยุดเสาร์อาทิตย์ไม่ได้ไปทำงานก็เลยขี้เกียจทาครีมบำรุง หรือปล่อยให้ผิวขาดน้ำ โดยวัน ๆ เอาแต่ดื่ม ชา กาแฟ น้ำอัดลม ส่วนน้ำเปล่าก็ดื่มน้อยมาก แน่นอน ผิวของคุณจะแลดูแห้งเหี่ยว ไม่สดใสเปล่งปลั่ง เผลอ ๆ เส้นสายริ้วรอยเริ่มเคลื่อนขบวนกันมาแล้ว ฉะนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ต้องมีวินัยในการให้อาหารผิวทุกวันทั้งภายนอก และภายใน ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ก็อย่าได้ขาด รวมถึงมีการปกป้องผิวด้วย

อย่างที่รู้กันดีว่า หลักของการบำรุงบำเรอผิวจะมีด้วยกัน 2 ทางคือ ทางปัจจัยภายนอกและทางปัจจัยภายใน สำหรับปัจจัยภายนอกคือ การทาครีมบำรุง ส่วนปัจจัยภายในคือ การกินอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ตาตุ รวมถึงดื่มน้ำเปล่าให้มาก ๆ แค่เพียง 2 ปัจจัย ก็จะช่วยบำรุงบำเรอผิวได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้ผิวไม่แห้งกร้าน และขาดความชุ่มชื้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยซะลอการเกิดริ้วรอยและความเหี่ยวย่น นอกจากนี้ สิ่งใดที่เป็นการทำร้ายผิว อย่างเช่น การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ อาบแดด รวมถึงการดื่มกาแฟหลายแก้วต่อวัน ที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นศัตรูต่อผิวทั้งนั้น เหตุนี้เราจึงต้องมีการกำหนดกฎเกณฑ์กับตัวเองว่า ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร่ำเพรื่อ แต่หากมีงานเลี้ยงสังสรรค์ก็ไม่ว่ากัน อาจดื่มบ้างเล็กน้อยเพื่อความสนุกสนาน กาแฟไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 แก้ว เพราะทั้งแอลกอฮอล์และกาแฟ เป็นตัวทำให้ผิวขาดน้ำ สรุปว่า สิ่งใดที่ควรทำให้เป็นกิจวัตรเพื่อเป็นการบำรุงบำเรอผิว
และปกป้องผิว ก็ควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด