ใช้ตัวช่วย

Browse By

ใช้ตัวช่วย ยูโดและไอคิโดมีท่าทุ่มท่าหนึ่งที่เรียกว่า “ทุ่มกลางอากาศ”ท่านี้เป็นท่าที่ใช้ทุ่มคู่ต่อสู้ที่ตัวใหญ่โดยไม่ต้องออกแรงมาก เวลาที่ต้องทำงานใหญ่ คนหนุ่มสาวซึ่งมีประสบการณ์น้อยก็สามารถนำเทคนิดท่าทุ่มกลางอากาศไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเวลาทำงานใหญ่จะต้องใช้แรงมาก แต่ว่าเราสามารถใช้เทคนิคท่าทุ่มกลางอากาศซึ่งอาศัยการเคลื่อนไหวขององค์กร อำนาจ และข้อมูลข่าวสารภายในองค์กรเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนงานใหญ่ได้ ตัวผมเองก็เคยมีประสบการณ์การปฏิรูประบบบริหารงานบุคคลโดยอาศัยความช่วยเหลือจากพนักงานในบริษัท

ตัวอย่างเทคนิคท่าทุ่มกลางอากาศคือการใช้ข้อมูลเพื่อยืนยันว่า “ข้อมูลว่าไว้อย่างนั้น ผมไม่ได้พูดเอาเองนะครับ” หลังจากใช้ประโยคนี้คุมผู้มีอำนาจตัดสินใจที่แท้จริงแล้ว ก็สำทับต่อด้วยการพูดว่า “ทำตามนโยบายของคุณ00” สิ่งสำคัญในการบรรลุเป้าหมายคือ การคิดหาวิธีเข้าใกล้เป้าหมายที่วางไว้ด้วยระยะทางที่สั้นที่สุดและใช้แรงน้อยที่สุดอยู่เสมอ บางคนอาจจะรู้สึกว่าเทดนิดท่าทุ่มกลางอากาศเป็นวิธีที่ออกจะขี้โกงและรู้สึกตะขิดตะขวงใจจนไม่กล้าใช้ แต่จริง ๆแล้วมันเป็นตัวช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างดีเลยล่ะครับ

สร้างความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวกับชีวิตการทำงาน

ความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวกับชีวิตการทำงานเป็นคำที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากในปัจจุบัน ถ้าพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือแนวคิดที่ว่า “จงทำงานและใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างเต็มที่” ช่วง 15 ปีมานี้อุปกรณ์ไอทีเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น พนักงานเลิกผูกมัดตัวเองกับการนั่งทำงานที่บริษัท เพราะถ้าสามารถจัดสรรเวลาเข้าประชุมได้ ก็จะสามารถไปส่งลูกที่โรงเรียนอนุบาลได้ หรือกลับบ้านไปทานอาหารเย็นพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวได้เหมือนกัน การหาทางให้ตัวเองได้กลับบ้านไปกินข้าวเย็น อาบน้ำและผ่อนคลายอิริยาบถก่อนแล้วค่อยทำงานต่อ จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการนั่งอยู่ที่บริษัทเป็น แม้จะทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำเหมือนกัน แต่คนที่หอบงานกลับไปทำที่บ้านซึ่งจะอาบน้ำเมื่อไหร่ก็ได้ ได้เข้านอนเวลานาน ๆ

ทันทีที่งานเสร็จ และได้รับกำลังใจจากการพบเจอกับคนในครอบครัว งานย่อมออกมามีคุณภาพมากกว่า อีกทั้งมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับคนที่ทำงานจนดึกดื่นกินข้าวมื้อดึกในออฟฟิศตอนไม่มีใครอยู่ และเปิดไฟหรือเครื่องปรับอากาศได้ไม่เต็มที่ ความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวกับชีวิตการทำงานมักถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงในแง่ที่ว่า “เพื่อชีวิตที่ยืนยาว จงอย่าทำงานมากเกินไป” อันที่จริงแล้ว แนวคิดนี้อันตรายมากเลยครับเพราะการลดปริมาณการทำงาน “เพื่อชีวิตที่ยืนยาว” ในขณะที่บริษัทกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่นั้นจะเป็น

การนำพาพนักงานและบริษัทไปสู่หายนะมากกว่าทั้งนี้หากคุณรู้จักยืดหยุ่นในเรื่องสถานที่ทำงาน แนวคิดเรื่องความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวกับชีวิตการทำงานที่ว่า “ทำงานดีขึ้นโดยไม่ต้องสละชีวิตส่วนตัว”จะสามารถปฏิบัติได้จริงและทำให้คุณบรรลุเป้าหมายได้ในที่สุด

สุดท้ายแล้วให้คิดว่าได้ทำจนสุดความสามารถแล้ว
ผลที่ตามมาจากการทำตามเป้าหมายมีแค่ “ทำสำเร็จ” หรือไม่ก็ “ทำไม่สำเร็จ”หากคุณพิจารณาจากหลาย ๆ อย่างแล้วเห็นว่าเป้าหมาย
ที่วางไว้เป็นไปไม่ได้ ขอให้คุณปรับเปลี่ยนความคิดซะ เพราะนอกจากมันจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายแล้ว การเปลี่ยนความคิดยังอาจเพิ่มความสำเร็จให้มากขึ้นได้อีกหลายเท่า ผมเห็นตัวอย่างมามากมายและตัวผมเองก็เคยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้ด้วย เพื่อนของผมคนหนึ่งเคยเจรจาขอเปลี่ยนจุดหมายปลายทางในการโดยสารเครื่องบินไปต่างประเทศ (ซึ่งเริ่มเจรจาหลังจากเครื่องบินขึ้นแล้ว) แน่นอนว่าเขาทำตามกฎ เขาบอกผมว่า “เขารู้ว่าควรพยายามต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าผลจะออกมาว่าทำไม่ได้ ไม่ใช่ล้มเลิกความคิดตั้งแต่แรก”

แต่การทำธุรกิจมักมีปัญหาายุ่งยากเกิดขึ้นเสมอ สถานการณ์ส่วนใหญ่จะไม่เป็นไปตามที่คาดไว้หากคุณพยายามอย่างสุดความสามารถแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ นั่นย่อมทำให้คุณรู้สึกท้อแท้และขาดแรงจูงใจได้ ในเวลานั้นผมจะคิดแบบนี้ครับ “ได้ทำจนสุดความสามารถแล้ว” แต่ก่อนที่จะรู้สึกอย่างนั้น ผมจะพยายามไปเรื่อย ๆ ให้ถึงที่สุดเสียก่อน