รูขุมขนกว้าง

Browse By

รูขุมขนกว้าง ปัญหารูขุมขนกว้าง ณ ที่นี้ คงไม่ต้องแจกแจงกันให้มากความเพราะถ้าใครที่เป็นประเภทผิวมัน หรือผิวผสมส่วนใหญ่มักจะเจอปัญหานี้กัน เพราะธรรมชาติของผิวทั้งสองประเภทนี้ ต่อมไขมันจะสร้างน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวขึ้นมามากแน่นอนที่สุด ผู้หญิงเราให้ความสำคัญกับเรื่องผิวหน้าเป็นอันดับหนึ่ง หากผิวหน้ากำลังเผชิญกับปัญหารูขุมขนกว้าง โดยเฉพาะบริเวณที่เรียกว่า ทีโซน (T-Zone) คือ หน้าผาก จมูก ผิวแก้มข้างจมูกและคาง ถือเป็นสิ่งที่กวนใจมาก ๆ คือ ผิวหน้าจะไม่เนียนเรียบคล้ายกับว่ามีรูพรุนโดดเด่นเป็นสง่าอย่างชัดเจน เผลอ ๆ อาจทำให้สิ่งสกปรกต่าง ๆ เข้าไปอุดตันตามรูขุมขนได้ จึงเป็นที่มาของเม็ดสิว

ธรรมชาติของผู้หญิงเราเมื่ออายุมากขึ้น รูขุมขนก็จะกว้างขึ้นด้วยเป็นเงาตามตัว ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ นั่นเป็นเพราะผิวของเราเริ่ม
ไม่กระชับเต่งตึงเสียแล้ว เหตุมาจากคอลลาเจน และอีลาสตินที่ผิวกำลังหดหายไปตามกาลเวลา อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ก็ทำให้บางคนร้องโห เซ็งจิต! อ๊ะอ๊ะ! อย่าเพิ่งเซ็งจิตกันเลยค่ะ เพราะอย่างน้อยเราก็มีวิธีที่จะช่วยชะลอ หรือยับยั้งความกว้างของรูขุมขนได้ ด้วยการดูแลตัวเองแต่ก่อนอื่นเลย เราควรรู้กันก่อนว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้รูซุมขนกว้างขึ้น ซึ่งสาเหตุที่ว่าก็มีดังนี้

  • ต่อมไขมันใต้ชั้นผิวผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวออกมามาก ทำให้ผิวขยายตัว เพื่อขับน้ำมันส่วนเกินออกไป
  • ใช้ครีมบำรุงผิวที่ไม่เหมาะสม ยิ่งถ้าเป็นประเภทผิวมัน การใช้ครีมบำรุงชนิดเข้มข้นมาก เท่ากับว่าเป็นการเติมมอยส์เจอไรเซอร์ให้ผิวมากเกินไป จึงทำให้ผิวต้องขับน้ำมันส่วนเกินออกไป ถ้าจะให้เหมาะสมควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติช่วยลดความมัน พร้อมทั้งกระชับรูขุมขนประเภท Oil Free
  • การทำร้ายผิวด้วยการขัดถูผิวหน้าแรง ๆ
  • ทำความสะอาดผิวหน้าไม่ดีพอ อาจมีคราบสิ่งสกปรก หรือน้ำมันส่วนเกินตกค้างอยู่
  • เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพแล้วไปอุดตันในรูขุมขน จึงทำให้รูขุมชนต้องขยายตัวออก
  • ปล่อยปละละเลยไม่มีการบำรุงผิว ปล่อยให้ผิวแห้ง จึงทำให้ผิวขาดความกระชับ
  • ไม่ทาครีมกันแดดเป็นผลให้แสงแดดแทรกตัวเข้าไปทำลายคอลลาเจนที่ชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวขาดความกระชับ และไม่เรียบเนียน
  • นิสัยชอบแกะสิว จึงทำให้ผิวบริเวณนั้นมีการขยายวงกว้างหรือเกิดเป็นหลุมลึก

เมื่อเรารู้กันแล้วว่าอะไรเป็นสาเหตที่ทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น ก็อย่าได้ละเลย ควรหลีกเสี่ยงสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น และที่สำคัญการแตะสัมผัส หรือการทำอะไรก็แล้วแต่บนผิวหน้าบอกตัวเองไว้เลยต้องนุ่มนวลทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น การทาครีมบำรุง การล้างหน้า การ
พอกหน้า และการสครับหน้า เพราะการขัดถูหน้าแรง ๆ จะทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง และยังเป็นการกระตุ้นการผลิตน้ำมันใต้ชั้นผิวให้ออกมามากด้วย นอกจากนี้ การผลัดเซลล์ผิวบ้าง อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้งถือเป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อเป็นการกำจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดลอกออกไป เท่ากับเป็นการช่วยทำความสะอาด และลดการอุดตันของรูขุมขน เพียงแค่นี้ ก็ถือเป็นการช่วยรูขุมขนไม่ให้มีการขยับขยายพื้นที่มากไปกว่าเดิม

สำหรับบางคนที่ใจร้อนใจเร็ว อยากจะรีบแก้ปัญหารูขุมขนกว้างให้ได้ทันใจ ก็หันไปพึ่งนวัตกรรมทางการแพทย์ ในปัจจุบันวิธีที่นิยมใช้ก็คือ เลเซอร์ (Laser) หรือการกระชับผิวด้วยลำแสง ซึ่งก็เป็นที่ยอมรับว่าเห็นผล แต่ก็ต้องใช้เวลาอย่างต่อเนื่องบวกกับค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าไม่ทำอย่างต่อเนื่อง ยังไงชะรูขุมขนก็กลับมากว้างเหมือนเดิมอยู่ดี นอกจากนั้น ยังมีคำเตือนจากคุณหมอ
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังว่า การทำเลเซอร์บ่อย ๆ จะส่งผลเสียในระยะยาว เพราะนานวันเข้าผิวหน้าของคุณจะเป็นฝ้าได้ง่ายกว่าปกติลองตรึกตรองกันดูนะคะว่า คุณจะแก้ปัญหารูขุมขนกว้างอย่างไร

รอยหมองคล้ำรอบดวงตา
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ แค่เพียงคุณมีรัวรอยร่องลึก และความหมองคล้ำรอบดวงตาอย่างเห็นได้ซัด ก็ทำให้ใบหน้าของคุณแลดูไม่
สดใสชะแล้ว หรือบางคนอาจแลดูโทรมเสียด้วยซ้ำไป ปัญหาเรื่องริ้วรอย และความหมองคล้ำรอบดวงตา ถือเป็นปัญหาที่ควรต้องใส่ใจ
ดูแลรักษา และทะนุถนอมอย่างต่อเนื่อง เพราะพื้นที่รอบดวงตาถูกจัดอันดับว่าเป็นส่วนที่บอบบางที่สุดบนใบหน้า ที่แน่ ๆ ดวงตาถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญว่า ใบหน้าจะดูสวย หรือดูโทรม แต่เมื่อถึงเวลาตามอายุที่มากขึ้น ริ้วรอย หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า รอยตีนกา ก็จะแสดงตัวตนออกมาในวันหนึ่ง ยังไงเสียเราก็หนีกันไม่พ้น แต่อย่างน้อยเราก็มีวิธีชะลอการเกิดรอยตีนกา และความหมองคล้ำให้ดวงตาได้ ด้วยการพยายามหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิด

ซึ่งต่อจากนี้เรามาดูกันว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตาเกิดริ้วรอยร่องลึก และความหมองคล้ำการอดหลับอดนอน หรือเกิดภาวะเครียดจนนอนไม่หลับติดนิสัยชอบใช้มือขยี้ตาแรง ๆ หรือแตะสัมผัสผิวบริเวณรอบดวงตาอย่างไม่เบามือ ใช้งานดวงตาหนักจนเกินไปคือ ทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ หรือใช้สายตาอ่านหนังสืออย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานๆโดยไม่มีการพักสายตาบ้าง ไม่ถนอมสายตา หรือปกป้องสายตาจากแสงแดด ละเลยเรื่องการทาครีมบำรุงผิวบริเวณรอบดวงตาเพราะกลไกของร่างกายที่สร้างมันขึ้นเองคือ สร้างเมลานินที่อยู่บริเวณผิวรอบดวงตามากกว่าปกติ จึงทำให้สีผิวรอบดวงตามากกว่าบริเวณอื่น ๆ