พี่เลี้ยง(Mentor)

Browse By

พี่เลี้ยง(Mentor) ในบางกรณีคุณอาจลำบากใจที่จะปรึกษาหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมทีมเกี่ยวกับความทุกข์ในการทำงาน ถ้าจะพูดกับคนในครอบครัวหรือเพื่อนก็คงไม่เข้าใจ และคุณก็ไม่อยากให้พวกเขาเป็นห่วงด้วย คุณพอจะนึกถึงคนที่สามารถเป็นที่ปรึกษาให้กับคุณได้
สักกี่คนครับ เราเรียกคนที่เป็นที่ปรึกษาให้คุณได้ว่าพี่เลี้ยง

โดยทั่วไปแล้วพี่เลี้ยงคือคนที่คุณนับถือซึ่งไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ กับคุณ เช่น หัวหน้าเก่า ลูกค้าเก่า อาจารย์หรือรุ่นพี่สมัยเรียน ส่วนใหญ่พวกเขามักจะมีประสบการณ์ชีวิตมากกว่าคุณ ตัวผมเองก็มีพี่เลี้ยงอยู่หลายคน ซึ่งแต่ละคนจะเป็นที่ปรึกษาในเรื่องที่แตกต่างกันไปเวลาผมไปขอคำปรึกษาจากพี่เลี้ยง บางครั้งก็ได้คำดอบ บางครั้งก็ไม่ได้คำตอบ แต่การเล่าเรื่องทุกข์ใจก็ช่วยให้ผมคลายความเครียดได้บ้าง

บางครั้งผมได้ฟังประสบการณ์ที่สามารถใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหา บางครั้งก็ได้งานหรือได้รู้จักคนใหม่ ๆ หรือไม่ก็ได้รับกำลังใจอย่างเต็มเปี่ยม ตัวผมเองเวลาได้ให้คำปรึกษาใครผมจะรู้สึกปลาบปลื้มใจ ความรู้สึกอยากช่วยเหลือผู้ที่กำลังมีความทุกข์นั้น คือความมีมนุษยธรรม คุณไม่ต้องเกรงใจเวลาไปขอคำปรึกษาจากพี่เลี้ยง เพราะว่าเขาเองก็มีพี่เลี้ยงเหมือนกัน พี่เลี้ยงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการบรรลุเป้าหมาย คุณไม่ต้องถึงกับขอร้องให้ใครสักคนมาเป็นพี่เลี้ยงให้อย่างเป็นทางการ เช่น “ช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้หน่อยนะครับ”
แค่คุณรู้สึกกับเขาแบบนั้น เขาก็กลายเป็นพี่เลี้ยงของคุณไปโดยอัตโนมัติแล้ว

วางปัญหาไว้ที่เดสก์ท็อปของความคิดเสมอ
วินาทีที่อาร์คิมิดีสหรือนิวตันคันพบทฤษฎีอันโด่งดัง พวกเขาไม่ได้นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน การสร้างไอเดียแปลกใหม่ขณะอาบน้ำหรือเดินเล่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ในชีวิตของเรา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการทำงาน คุณควรวางปัญหาไว้ในใจเสมอ เมื่อคุณพบเห็นปรากฏการณ์ที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกันอย่างน้ำลันจากอ่างอาบน้ำหรือผลแอปเปิลร่วงจากต้น แล้วเชื่อมโยงมันเข้ากับปัญหาของตัวเองทันที คุณจะสามารถสร้างไอเดียได้ดีขึ้นและมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้นตามไปด้วยผมเรียกสิ่งนี้ว่า “การวางปัญหาไว้ที่เดสก็ท็อปของความคิด”

การวางปัญหาไว้ที่เดสก็ท็อปของความคิดเพื่อให้เรียกดูได้ทันที ก็เหมือนกับการบันทึกไฟล์ไว้บนเดสก์ท็อปของคอมพิวเตอร์ เมื่อคุณทำแบบนี้ เวลาเดินสวนกับใครบางคนที่เกี่ยวข้องกับปัญหาของคุณ คุณจะขอคำปรึกษาจากเขาได้ทันทีจึงไม่เป็นการปล่อยให้โอกาสหลุดมือไป คุณอาจจะมองว่าการเอาแต่คิดเรื่องงานแบบนั้นก็ไม่ได้พักสมองน่ะสิ สุดท้ายแล้วปัญหานั้นก็จะยังรบกวนจิตใจของคุณไม่รู้จบ แต่จากประสบการณ์ของผม เวลาที่มีเรื่องอะไรก็ตามรบกวนจิตใจ การรับรู้ว่า “ปัญหาอยู่ตรงนี้” จะช่วยลดความเครียดได้ดีกว่าการกังวลกับปัญหาที่ยังดูคลุมเครือ

จดบันทึกเฉพาะคำที่นำไปสู่การกระทำ
แต่ละคนมีเทคนิคในการจดบันทึกแตกต่างกันไป โดยทั่วไปบันทึกหมายถึงสิ่งที่จดกันลืมหรือเก็บข้อมูลบางอย่างตอนนี้ผมอยากให้คุณลองมองการจดบันทึกเสียใหม่ โดยมองว่ามันเป็นตัวช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้ การจดบันทึกเป็นสิ่งสำคัญและมีประโยชน์มากสำหรับนักเรียนหรือพนักงานใหม่เพื่อให้จดจำความรู้หรือข้อมูลใหม่ ๆ แต่การจดจำความรู้หรือข้อมูลที่มากเกินไปก็เป็นเรื่องที่เปล่าประโยชน์ เพราะเรามีนามบัตรที่ช่วยให้รู้จักชื่อและตำแหน่งของอีกฝ่ายอยู่แล้ว

ส่วนการประชุมก็มีรายงานการประชุม ซึ่งคุณจะได้รับข้อมูลในรูปแบบไฟล์ข้อมูลหรือไม่ก็เอกสารแจกจ่าย ถ้าอย่างนั้นเราจะจดบันทึกไปเพื่ออะไรล่ะ สิ่งที่เราจดควรนำไปสู่การกระทำต่อไป ไม่ใช่สิ่งที่จดไว้กันลืม หากสิ่งที่บันทึกนั้นไม่นำไปสู่การกระทำต่อไปก็จะ
ไม่ทำให้คุณบรรลุเป้าหมาย ผมจะจดสิ่งที่ต้องทำไว้ในสมุดโน้ต ทบทวนรายการเหล่านั้นช่วงท้ายวัน แล้วจดสิ่งที่ต้องทำของวันถัดไป พอ เช้าวันรุ่งขึ้นก็อ่านรายการที่จดไว้เมื่อวาน เมื่อผมจดบันทึกจนสมุดหมดเล่มแล้วผมจะทิ้งลงเครื่องทำลายเอกสารเลย เพราะไม่มีอะไรที่ต้องย้อนกลับไปอ่านอีก การจดบันทึกเพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายก็มีเพียงเท่านี้ครับhttps://chezcaroline.com/