ปัจจัยที่ทำร้ายผิวสวย

Browse By

ปัจจัยที่ทำร้ายผิวสวย เราจะคอยดูแลปกป้องผิวและหนีห่างจากเหล่าร้ายเหล่านี้ได้อย่างไร อะไรบ้างที่เราต้องรู้ว่าเป็นตัวทำลายผิวเรา ไม่ยากค่ะมีคำตอบอยู่ตรงนี้แล้ว

ปัจจัยที่ทำร้ายผิวสวย

รังสียูวี ถูกหมายหัวให้เป็นตัวร้ายอันดับหนึ่งของผิว เป็นต้นเหตุทำให้ผิวหมองคล้ำ แห้งกร้าน เกิดริ้วรอย เป็นฝ้า ตกกระ หนักเข้าก็สามารถทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้ รังสียูวีที่อยู่ในแสงแดดแยกออกเป็น 2 ชนิดคือ รังสียูวีเอ(UVA) และรังสียูวีบี(UVB)ถ้าเป็นยูวีเอ จะสามารถทะลุผ่านเข้าไปยีงชั้นใต้ผิวหนังหรือหนังแท้ได้ แต่ยูวีบี จะทะลุผ่านแค่ผิวด้านบนหรือหนังกำพร้าเท่านั้น แน่นอนว่า ยูวีเอจะร้ายกาจกว่า เพราะสามารถเข้าถึงเซลล์ผิวได้ เข้าไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว และทำลายความชุ่มชื้นของผิวอีกด้วย ทำให้ทำขาดความยืดหยุ่น แห้งกร้านและเหี่ยวย่น

ฉะนั้น เพื่อเป้นการปกป้องผิวให้รอดพ้นจากการถูกทำลายจากแสงแดด ครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีไว้ใช้กันเสมอ และเวลาออกไปไหนมาไหน ควรกลัวแดดด้วยการกางร่มหรืออาจเลือกใส่หมวกก็ได้ รวมถึงเสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ควรจะปกปิดผิวสักหน่อย แต่ความทดีของแสงแดดอ่อนๆยามเช้าตรู่ เป็นแหล่งวิตามิน ดี ทีเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เพราะวิตามินดีมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียมอย่างมาก ช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง

บุหรี่ คุณสาวๆ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ติดบุหรี่ สังเกตหน้าตาและผิวพรรณของตัวเองกันบ้างไหมว่า มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างจากเมื่อก่อนที่ยังไม่สูบ เช่น ดูแก่กว่าวัย โทรม ไมสดใส ผิวหนังหยาบกร้าน ไม่เต่งตึง รอยตีนกา ริมฝีปากดำคล้ำ ลมหายใจมีกลิ่น หมดกันความสวย

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อคุณดื่มแอลกอฮอล์แล้วแอลกอฮอล์ซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เส้นเลือดขยายตัว ทำให้ร่างกายเสียน้ำมากขึ้น เมื่อร่างกายขาดน้ำก็จะส่งผลถึงผิวด้วย ทำให้ผิวความความชุ่มชื้นและแห้งเหี่ยว ผลลัพธ์คือ เหี่ยวเร็ว

น้ำตาล เพราะน้ำตาลสามารถเข้าไปทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวหนังได้ ธรรมชาติของร่างกายมีคอลลาเจน คอยช่วยทำให้ผิวแข็งแรง มีความชุ่มชื้น เต่งตึง เนียนเรียบ ส่วนอิลาสตินจะคอยสร้างความยืดหยุ่นให้ผิว แต่เมื่อใดก็ตามที่คอลลาเจนและอีลาสตินถูกทำลาย ชั้นผิวหนังบริเวณนั้นก็จะมีการยุบตัว ทำให้ผิวหย่อนคล้อย เกิดเส้นสายริ้วรอยขึ้นมาแทนที่

นอนน้อย หากร่างกายได้นอนหลับสนิทจะมีผลต่อการหลั่งสาร Growth hormone ซึ่งเจ้าสารตัวนี้เป็นฮอร์โมนที่จะช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายรวามถึงเซลล์ผิวด้วย มีคำแนะนำให้เด็กวัยรุ่นวัยเรียนควรนอนหลับพักผ่อนไม่น้อยกว่า 9 ชั่วโมง และสำหรับผู้ใหญ่ประมาณ 7-8 ชั่วโมง

ความเครียด เวลาเราเครียด สิ่งที่เราทำโดยไม่รู้ตัวคือ หน้านิ่ว คิ้วขมวด ย่นหน้าผาก เพราะเป็นการเพิ่มริ้วรอยบนใบหน้ามากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการทำให้เกิดสิวอักเสบอีกด้วย