คอลลาเจน อีลาสติน ไฮยาลูโรนิก

Browse By


คอลลาเจน อีลาสติน ไฮยาลูโรนิก พลังวิเศษยกกำลัง3 ภายใต้ขั้นผิวหนังตามธรรมชาติจะมีสารโปรตีนเป็นองค์ประกบที่สำคัญต่อผิว เพราะสภาพผิวไม่ว่าจะสวยสดใส เต่งตึง กระซับ เนียนนุ่ม ปราศจากริ้วรอย หรือผิวจะหย่อนคล้อย แห้งเหี่ยวและหมองคล้ำ ทั้งหมดทั้งมวล ล้วนมีองค์ประกอบที่สำคัญเป็นตัวแปร นั่นก็คือ คอลลาเจน อีลาสติน และไฮยาลูโรนิก ซึ่งถือว่าเป็นพันธมิตร ที่จะคอยช่วยปกป้องการเกิดริ้วรอย และคงความแข็งแรงของผิวเอาไว้

คอลลาเจน (Collagen) เป็นเส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นตัวการสำคัญที่จะช่วยทำให้เซลล์ผิวแข็งแรง มีความแน่นกระชับเต็งตึง โดยจะต้องทำงานร่วมกับเส้นใยโปรตีนอีกชนิดที่ชื่อ อีลาสติน(Elastin) ซึ่งจะช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว หรือสามารถเด้งตึ่ง คืนรูปกลับมาใหม่ได้ ส่วนกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) เป็นส่วนประกอบสำคัญของเนื้อเยื่อผิว มีคุณสมบัติเป็นสารแขวนลอย
ที่ทำหน้าที่โอบอุ้มคอลลาเจน และอีลาสตินไว้ อีกทั้งยังช่วยผิวกรองรังสียูวีอีกด้วย

https://chezcaroline.com/

โดยธรรมชาติแล้ว พันธมิตรที่ว่านี้จะต้องทำงานร่วมกันอย่างไม่เกี่ยงงอน ผิวถึงจะคงความกระชับ สดใสเปล่งปลั่งเอาไว้ และเมื่อ
วันเวลาผ่านพ้นอายุเกินกว่าเลข 20 ก็ต้องยอมรับความจริงที่ว่า การสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินในร่างกายจะค่อย ๆ ลดลงไป
ตามอายุที่เพิ่มขึ้น หรือเริ่มเสื่อมสภาพนั่นเอง และกรดไฮยาสูโรนิกก็จะ ลดปริมาณลงด้วยเช่นกัน จึงส่งผลต่อสภาพผิว ทำให้ชั้นของผิวหนังยุบตัวคือ ผิวจะเริ่มไม่ค่อยสดใสเปล่งปลั่ง ไม่ค่อยเต่งตึง เริ่มมีริ้วรอยและความเหี่ยวย่นอย่างเด่นชัด

อันที่จริงผู้หญิงเราค่อนข้างคุ้นหูกับพันธมิตรที่ว่านี้ เพราะในวงการเครื่องสำอาง ต่างก็นำคุณสมบัติที่ดีของทั้ง 3 มาเป็น
ส่วนประกอบสำคัญในการโฆษณาขายครีมบำรุงผิว เช่น ช่วยเร่งการผลิตคอลลาเจนให้กับผิว ทำให้ผิวสวย กระชับ สดใส นุ่มเนียน
มีความยืดหยุ่น ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยฟื้นบำรุงผิวชั้นนอกและทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น เพราะคำโฆษณาที่ดูดี อาจจะเกินความเป็นจริงไปบ้าง จึงมีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังท่านหนึ่ง ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า คอลลาเจน และอีลาสตินที่มีการดัดแปลงโมเลกุลให้เล็กลงจนสามารถแทรกซึมเข้าสู่ใต้ผิวได้นั้น จริง ๆ แล้วไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของคอลลาเจนและอีลาสตินที่อยู่ใต้ผิวสักเท่าไหร่ แต่การที่คุณรู้สึกว่าผิวของคุณ นุ่มนวล และยืดหยุ่นขึ้น นั่นเป็นแค่ความรู้สึก หรือคิดไปเอง เพราะคำอวดอ้างว่ามีคอลลาเจน และอีลาสตินอยู่ในครีมบำรุงผิวนั้น แท้จริงแล้ว เป็นแค่เพียงการเติมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ตามธรรมชาติให้กับผิวเท่านั้น

ข้อมูลที่ว่านี้ ทำให้ต้องฉุกคิดจริง ๆ ค่ะ เช่นนั้นแล้ว จึงขอนำเสนอวิธีการที่มีส่วนช่วยคงคุณสมบัติอันแสนวิเศษของโปรตีนทั้ง 3
ชนิดนี้ไว้ให้เนิ่นนาน นั่นก็คือ การกระตุ้นการสร้าง และการฟื้นฟู แน่นอนว่า ก็มีทั้งจากทางภายนอก และทางภายในร่างกาย สำหรับ
ทางภายนอกที่นิยมกันมีหลากหลายวิธี เช่น การฉีดคอลลาเจน การเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวโดยการทำเอเอชเอทรีตเมนต์ (AHA) และการใช้พลังงานความถี่สูงไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน และเพิ่มปริมาณกรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งวิธีที่บอกกล่าวกันนี่ ถือเป็นวิทยาการทางการแพทย์ที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง


ส่วนทางภายในก็คือ การกินโดยกินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระในระดับสูง เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดอนุมูลอิสระที่เป็นตัวการทำลายคอลลาเจน และอีลาสติน ซึ่งก็มีวิตามินเข้าข่ายอยู่ 3 ชนิด นั่นก็คือ เบต้าแคโรทีน วิตามิน ซี และวิตามิน อี
แหล่งอาหารที่เราจะได้รับวิตามินที่ว่านี้ ก็หนีไม่พ้นพวกผัก ผลไม้ พอโยงถึงเรื่องกิน ก็ขอพาดพิงถึงเรื่องผลิตภัณฑ์เสริมสารสกัดคอลลาเจน และเครื่องดื่มที่มีสารสกัดคอลลาเจนเป็นส่วนผสมกันเสียหน่อย เพราะหลายคนอาจอยากรู้ว่า ถ้ากินแล้วจะช่วยเพิ่มคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้จริงหรือไม่ จะบอกแบบฟันธงก็ใช่เรื่อง เอาเป็นว่า ผลิตภัณฑ์คอลลาเจนที่ว่านี้เป็นแค่เพียงนางรองหาใช่นางเอกไม่

ไม่ว่าคุณจะเลือกการกระตุ้นการสร้างและการฟื้นฟูพันธมิตรพิทักษ์ผิวนี้ด้วยวิธีใด ทุกวิธีถือเป็นปฏิบัติการต่อต้านริ้วรอย เพื่อช่วย
ชะลอความแก่นั่นเอง แต่สำหรับฉันแล้ว ในความเห็นส่วนตัวขอเลือก วิธีกินผักและผลไม้ค่ะ เพราะสบายกระเป๋าสตางค์ แหม…ก็บ้านเราน่ะ มีผักผลไม้ไม่เคยขาด แถมราคาก็ยังถูกอีกต่างหาก กินแล้วผิวสวย สุขภาพดี ห่างไกลโรค แล้วแบบนี้จะไม่ให้เลือกได้ยังไงล่ะคะ!