ขาวกระจ่างใสด้วยวิธีธรรมชาติ กระแสความขาวกระจ่างใสสไตล์เกาหลีฮิตในบ้านเรา ทำให้สาวไทยหลาย ๆ คน อยากจะขาวกระจ่างใสกันทั่วบ้านทั่วเมือง จึงทำให้สารตัวหนึ่งที่มีคุณสมบัติทำให้ผิวขาว นั่นก็คือ สารกลูตาไธโอน (Glutathione) ตามข้อมูลบอกว่า สารกลูตาไฮโอน สามารถเข้าไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีของผิว ทำให้ผิวขาวขึ้น ในกรณีนี้คือ ต้องฉีดสารที่ว่านี้เข้าไปในปริมาณมาก แต่ก็มีข้อเสียคือ อาจมีอันตรายต่อสุขภาพในวันข้างหน้า
ซึ่งทางการแพทย์บอกว่า ไม่ว่าจะเป็นกลูตาไธโอนชนิดไหนหรือผลิตภัณฑ์ หรือยาชนิดไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนผิวของเราให้ขาวอย่างถาวรได้ เพราะในที่สุดแล้ว เมื่อยาหมดฤทธิ์ สีผิวของเราก็จะกลับมาคงสภาพเดิม จริง ๆ แล้ว สารกลูตาไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้ในทุกเชลล์ของร่างกาย และร่างกายเราก็สามารถสังเคราะห์ขึ้นเองได้จากอาหารบางชนิดที่เรากิน เช่น ไข่ นม ผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง บร็อคโคลี่ มะเขือเทศ สตรอเบอร์รี่ อโวคาโด และเกรปฟรุต
อยากจะบอกว่า ถ้าอยากขาวกระจ่างใส ควรเลือกขาวกระจ่างใสด้วยวิธีธรรมชาติเป็นดีที่สุด ถึงแม้ว่าจะเป็นการขาวอย่างค่อยเป็นค่อยไปก็เถอะ ที่แน่ ๆไม่เป็นอันตรายกับร่างกายในอนาคต
เลือกน้ำมันปรุงอาหาร
ในท้องตลาดทั่วไป น้ำมันที่ใช้ในการปรุงอาหารมีด้วยกันหลายชนิด เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว น้ำมันข้าวโพด
น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันมะพร้าว น้ำมันคาโนล่า น้ำมันมะกอก
ในบรรดาน้ำมันปรุงอาหารทั้งหมด น้ำมันที่มาวินเป็นอันดับ 1 ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายรวมถึงผิวพรรณที่ดีด้วย ก็ต้องน้ำมัน
มะกอก เหตุเพราะน้ำมันมะกอกเป็นกรดไขมันประเภทชั้นดีคือ ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ แถมยังเป็นสารต้านอนุมูล
อิสระอีกด้วย เพราะเป็นแหล่งของวิตามิน อี และวิตามิน เอ ที่มีส่วนทำให้ผิวพรรณดีส่วนเรื่องการใช้ก็ต้องแยกใช้ให้ถูกต้องด้วยคือ ควรอ่านฉลากข้างขวดด้วยว่า ขวดนี้เหมาะสำหรับอาหารประเภททอดอย่างเดียว หรือใช้ได้ทั้งทอด และผัด หรือสามารถกินได้เลย เช่น นำไปเป็นส่วนผสมในน้ำสลัด ถึงแม้ว่าราคาของน้ำมันมะกอกจะค่อนข้างแพง แต่ถ้าเราถือว่า เป็นการป้อนสิ่งดีดีให้กับร่างกาย ก็นับว่าคุ้มค่าเงินที่เสียไปนะคะ
เลิกบุหรี่ให้ได้
แปลกดีจัง! เราต่างก็รู้กันดีว่า การสูบบุหรี่ไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรกับร่างกายเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ยังสูบกันเต็มบ้านเต็มเมือง คงไม่มีค้านหรอกว่า คนที่สูบบุหรี่อย่างสม่ำเสมอ รับรองว่าผิวพรรณและหน้าตาแก่กว่าวัยอย่างเห็น ๆ ส่องกระจกดูผิวหน้าได้เลยริ้วรอย
ร่องลึก ความหมองคล้ำ ความเหี่ยวแห้ง ยึดเต็มพื้นที่
อย่าปล่อยให้ผิวขาดน้ำ
เพราะร่างกายมีน้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ ถ้าผิวของคุณมีความแห้งกร้านนั่นแสดงว่า ร่างกายกำลังขาดน้ำ สำหรับบางคน ถึงแม้ว่าคุณจะมีเงินมากพอที่จะสามารถซื้อหาครีมบำรุงผิว ที่อวดอ้างสรรพคุณว่าดีเลิศแถมราคายังแพงแสนแพง มาใช้ได้อย่างสบายๆ
ขอบอกว่า ครีมเหล่านั้นก็ไม่อาจช่วยทำให้ผิวของคุณดูสวยสุขภาพดีขึ้นมาได้สักเท่าไหร่หรอก เพราะถ้าร่างกายของคุณขาดน้ำ รับรองว่าผิวจะเหี่ยวแห้ง ไม่สดใสเปล่งปลั่ง และไร้ชีวิตชีวาแน่นอน
โดยธรรมชาติของร่างกายจะต้องมีการสูญเสียน้ำ ซึ่งก็มมากถึง 2 ใน 3 ส่วนในแต่ละวันเพราะร่างกายต้องใช้น้ำในขบวนการย่อยอาหาร ดูดซึมอาหาร และขับของเสียออกจากร่างกาย ที่เห็นกันชัดๆ ก็มีทางรูขุมขน หรือที่เราเรียกกันว่าเหงื่อและการขับปัสสาวะและอุจจาระ เพราะเหตุนี้ เราถึงจำเป็นต้องมีการชดเชยน้ำที่สูญเสียไปด้วยการดื่มน้ำนั่นเอง และน้ำก็ถือเป็นหนึ่งในอาหารผิวที่ดีที่สุด
ดังนั้น ถ้าอยากผิวสวยแถมสุขภาพดี ก็ต้องดื่มน้ำให้มาก ๆขอแค่วันละ 2 ลิตรก็เพียงพอแล้ว แน่ล่ะน้ำที่ว่านี้ก็ควรเป็นน้ำเปล่า เท่านั้น
อย่าปล่อยให้ท้องผูก
โดยธรรมชาติของร่างกาย การขับถ่ายถือเป็นการขับไล่ของเสีย และสารพิษออกจากร่างกาย ถ้าร่างกายเรามีการขับถ่ายที่ดีก็
ถือว่าสุขภาพร่างกายอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งในหัวข้อนี้จะขอพูดถึงแต่เรื่องการถ่ายหนัก หรือถ่ายอุจจาระ ถ้าการขับถ่ายมีปัญหา เช่น อุจจาระแข็ง หรือไม่ได้ถ่ายมาหลายวัน อาการที่ว่านี้ เรียกว่าท้องผูก ถึงแม้ว่าอาการท้องผูกจะไม่ได้รุนแรงอะไรมากนัก แต่ก็ส่งผลเสียต่อผิวพรรณและยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารด้วยหลายคนอาจงง อาการท้องผูกจะมาเกี่ยวข้องอะไรกับปัญหาผิวพรรณกันล่ะเนี่ย! เพราะถ้าร่างกายเราไม่ได้ขับไล่ของเสีย หรือเอาสารพิษออกไปให้พ้นจากร่างกาย แน่นอนว่า สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นที่ยังตกค้างอยู่ก็จะถูกดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือดใหม่ ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ขึ้นในร่างกาย ซึ่งก็รวมถึงเซลล์ผิวด้วย ทีนี้ก็หายงงกันแล้วใช่มั้ยคะ หากไม่อยากต้องเจอกับอาการท้องผูก ก็ต้องเหลียวมองตัวเองกันสักนิด ว่ามีพฤติกรรมการกินที่ดีหรือไม่