การควบคุมน้ำหนัก

Browse By

การควบคุมน้ำหนัก หากถามผู้หญิงสักร้อยคน ระหว่างความอ้วนกับความแก่ กลัวอย่างไหนมากกว่ากัน เชื่อแน่ว่า เป็นคำตอบที่ตอบยากชะมัด! เพราะทั้งสองอย่างน่ากลัวพอกัน ผู้หญิงเราถ้าเลือกได้ก็อยากสวยหุ่นดีกันทุกคนแหละ ส่วนความอ้วนน่ะเหรอ อยากจะไปให้พ้น ๆ ยิ่งอายุมากขึ้นแล้ว…หนียากยิ่ง จะว่าไปแล้ว ก็มีวิธีมากมายที่จะทำให้เราความอ้วน หรือควบคุมน้ำหนักได้ แต่ขึ้นอยู่กับว่า จะปฏิบัติตามกันหรือเปล่าล่ะ


มีวินัยในการกิน คือ ต้องไม่กินพร่ำเพรื่อ หรือว่างเมื่อไหร่ก็กิน การกินให้เหมาะควรกินให้เป็นเวลารวมถึงปริมาณที่กินก็ต้องพอเหมาะไม่มากจนเกินไป ที่สำคัญ มื้อดึกก่อนนอนลืมไปได้เลย
เลือกประเภทอาหารที่กิน ดีที่สุดคือ ควรเลือกกินอาหารประเภทไขมันต่ำ และให้กากใยสูง
เมินอาหารบางประเภท หรือถ้าเมินไม่ได้ก็นาน ๆ กินทีก็ยังไหว ก็มีพวก อาหารจานด่วน อาหารไขมันสูง เนื้อสัตว์แปรรูป
อาหารหวาน อาหารเค็ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มคาเฟอีน

เร่งให้เกิดการเผาผลาญ ในที่นี่ก็คือ การออกกำลังกายถ้าไม่สามารถออกกำลังกายได้ทุกวัน อย่างน้อยสัปดาห์ 3-4 ครั้งก็ยังดี และควรทำอย่างสม่ำเสมอ

ให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหวอยู่บ่อย ๆ เพื่อให้เกิดการเผาผลาญพลังงาน เช่น อาจเดินขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟต์ เดินไปกินข้าวนอกออฟฟิศ แต่ถ้าอยู่บ้าน การทำงานบ้านจะช่วยได้เยอะทีเดียว ทั้งถูบ้าน ขัดห้องน้ำ รีดผ้า รดน้ำต้นไม้ และล้างรถ
เคี้ยวอาหารช้า ๆ จะช่วยทำให้กินได้ไม่เยอะ และอิ่มเร็ว ทั้งยังช่วยให้การย่อยอาหารในร่างกายนั้นเป็นไปอย่างปกติ
เน้นกินพืชผักผลไม้ให้มาก ๆ เพื่อให้ได้รับกากใยอาหาร แต่ก็มีข้อจำกัดสำหรับผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงอย่างพวก ทุเรียน ขนุน เงาะ ลำไย ละมุด เพราะถ้าขืนกินเข้าไปเยอะ รับรองอ้วนแน่
อาหารมื้อเย็น ไม่ควรกินอาหารประเภทแป้ง ถ้าจะให้สามารถควบคุมน้ำหนักได้อย่างเห็นผล ก็อาจเลือกกินผลไม้แทน หรืออาจเป็นสลัดผักสักจานก็ได้
ดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 2 ลิตร เพราะน้ำเป็นตัวช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย และยังช่วยเผาผลาญไขมันให้ลดน้อยลงอีกด้วย หรือบางมื้อบางวัน เกิดอารมณ์เบื่อน้ำเปล่า ก็สามารถดื่มน้ำผลไม้แทนได้ แต่มีข้อแม้ว่า ควรเป็นน้ำผลไม้สด ๆ ถึงจะดี หากเป็น
น้ำผลไม้สำเร็จรูป รู้ใช่มั้ยว่า น้ำตาลตรีม!
ไม่ควรใช้ยาลดความอ้วนเป็นตัวช่วย เพราะอาจทำให้เกิดอาการ YOYO Effect ได้ ซึ่งเป็นภาวะที่น้ำหนักตัวจะเพิ่มมากยิ่ง
หลังจากที่หยุดใช้ยา

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ตั้งแต่เข้ายันเย็น ไม่ว่าคุณจะเจอศึกหนัก หรือศึกเบาอะไรมาบ้าง พอตกกลางคืนก็เวลานี้แหละ ถือว่าเป็นเวลานอนหลับพักผ่อนที่ดีที่สุด การได้นอนหลับ ถือเป็นการช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างแท้จริงคือ ได้ปลดเปลื้องออกจากความเหนื่อยล้า และยังช่วยให้ร่างกายได้มีการซ่อมแซมตัวเองในส่วนที่สึกหรอ ซึ่งก็มีผลต่อการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วย
คุณรู้ไหมว่าการไม่หลับไม่นอน หรือการนอนไม่พอ จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย ทำให้สมองของเราทำงานช้าลง ขาดความกระปรี้กระเปร่า ไม่สดชื่นแจ่มใส และคิดอะไรไม่ค่อยจะออก ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของเราแย่ลง ฉะนั้น ควรใส่ใจเรื่องของการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพราะถ้าร่างกายเราได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ก็เหมือนกับรถยนต์ที่มีน้ำมันอยู่เต็มถังคือ พร้อมที่จะลุยต่อ

นอกจากนี้ การนอนไม่พอก็ยังส่งผลเสียต่อผิวพรรณด้วยอย่างที่ได้มีการบอกกล่าวกันไปแล้วว่า ในช่วงเวลาที่เรากำลังหลับสนิทอยู่นั้น ระบบประสาทจะมีการหลั่ง Growth Hormone ออกมา ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จะช่วยฟื้นฟู และซ่อมแซมร่างกายในส่วนที่สึกหรอ รวมถึงมีการซ่อมแชมเซลล์ผิวให้กลับมาสวยเปล่งปลั่งเหมือนเดิมด้วยหรือจะบอกว่าเป็นตัวที่ช่วยชะลอวัยนั่นเอง
สำหรับบางคนที่ชอบนอนดึก หรือนอนน้อยจนเป็นนิสัย ถ้าอยู่ดี ๆ ต้องลุกขึ้นมาจัดตารางการนอนเสียใหม่ก็อาจมีปัญหาบ้าง เช่น นอนหลับไม่สนิท หลับ ๆ ตื่น ๆ ทั้งคืนหรือกว่าจะหลับได้ก็ต้องใช้เวลานานพอควร ปัญหาที่ว่านี้มีทางออก

วิธีที่จะช่วยทำให้การนอนหลับของคุณดีขึ้น
ฝึกวินัยให้กับตัวเองด้วยการเข้านอนตรงตามเวลาทุกวัน รวมถึงคำนวณชั่วโมงการนอนให้เหมาะสมด้วยคือ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
ไม่ควรดื่มชา กาแฟ และสูบบุหรี่ก่อนนอน ไม่ควรกินอาหารมื้อหนักก่อนนอน สำหรับคนที่มีปัญหาปัสสาวะบ่อย เพื่อให้ได้นอนหลับสนิททั้งคืน ไม่ควรดื่มน้ำก่อนนอน ควรหลีกเลี่ยงการนอนตอนกลางวัน แต่ถ้าต้องนอนก็ไม่ควรเกิน 30 นาที ทำตัวให้ผ่อนคลายก่อนเข้านอน อาจเลือกฟังเพลงก่อนนอน อ่านหนังสือ นั่งสมาธิ หรืออาบน้ำอุ่น ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะความเหนื่อยล้าจากการออกกำลังกาย จะช่วยทำให้นอนหลับได้อย่างง่ายดาย