เคล็ดลับการทำงานเป็นทีม

Browse By

เคล็ดลับการทำงานเป็นทีม มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่”ต้องได้รับการกระตุ้น”เมื่อทำงานในองค์กร คุณย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงการทำงานเป็นทีมได้เลย แล้วคุณรู้ไหมว่าเคล็ดลับในการทำงานเป็นทีมคืออะไร ผมขอแนะนำเคล็ดลับที่ใช้ได้ในทุกสถานการณ์ไม่ว่าคุณจะเป็นหัวหน้าทีมหรือลูกทีมก็ตามความหมายของการทำงานเป็นทีมอย่างที่เรารู้กันคือ การแบ่งงานที่ไม่สามารถทำคนเดียวได้ให้กับสมาชิกในทีมเพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายที่ใหญ่ขึ้น ทว่ามนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักร แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึก ผลงานที่ออกมาจะได้รับอิทธิพลจาก
แรงจูงใจของสมาชิกในทีม

ดังนั้น สมาชิกทุกคนจะต้องใส่ใจและคอยกระตุ้นแรงจูงใจของสมาชิกคนอื่น ๆสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งเวลาขอให้ใครสักคนทำอะไรให้คือการใช้น้ำเสียงแบบออกคำสั่ง เพราะคนที่ถูกสั่งจะรู้สึกไม่ดี เมื่อมี “ผู้ออกคำสั่ง” ก็จะต้องมี “ผู้ทำตามคำสั่ง”ในกรณีที่ร้ายแรงการตกอยู่ในฐานะเป็น “ผู้ทำตามคำสั่ง”อาจก่อให้เกิด “การต่อต้าน” ได้

เวลาขอให้ใครสักคนทำอะไร ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบหัวหน้ากับลูกน้อง ลูกค้ากับซัพพลายเออร์ หรือสมาชิกในทีมเดียวกัน ถ้าคนคนนั้นรู้สึกว่า “ถูกบังคับ” มากกว่า “ถูกกระตุ้น” ผลงานของเขาจะออกมาไม่ดี ผมได้เป็นหัวหน้าทีมตั้งแต่อายุยังน้อย และมีลูกทีมเป็นรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ในการทำงานหลายสิบปีอยู่หลายคนเวลาไหว้วานคนเหล่านั้น ผมจะพูดว่า “รบกวนด้วยนะครับ” ด้วยท่าทางอ่อนน้อม แม้อีกฝ่ายจะเป็นพนักงานใหม่ผมก็ปฏิบัติกับพวกเขาแบบเดียวกัน พนักงานมืออาชีพทำผลงานได้ดีที่สุดเวลาได้รับการ “ขอร้อง” หรือ “คาดหวัง” ดังนั้น คุณควรปฏิบัติต่อคนหนุ่มสาวที่จะก้าวขึ้นมาเป็นพนักงานมืออาชีพโดยใช้ความ”คาดหวัง” เช่นเดียวกัน

รู้จักสิ่งที่คนอื่นให้ความสำคัญ
แต่ละคนมีแรงจูงใจในการทำงานหรือสิ่งที่ให้ความสำคัญแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น บางคนให้ความสำคัญกับคะแนนประเมินผลการปฏิบัติงานจากหัวหน้าหรือโบนัสปลายปี บางคนเลิกงานตรงเวลาเพราะให้ความสำคัญกับครอบครัวหรืองานอดิเรก หรือบางคนให้ความสำคัญกับการดื่มสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานหลังเลิกงาน การเคารพสิ่งที่คนอื่นให้ความสำคัญจะช่วยทำให้ผลงานของทีมออกมาดี เราไม่ควรใช้ค่านิยมของตัวเองตัดสินว่าสิ่งใดเป็น “เรื่องทั่วไป” แล้วเอาบรรทัดฐานนั้นมา ตัดสินคนอื่นโดยเด็ดขาด แต่ละทีมย่อมมีจุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายร่วมกัน ซึ่งองค์กรจะประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานจากระดับความสำเร็จนี้ ดังนั้น แต่ละคนก็ทำหน้าที่ให้สำเร็จลุล่วงในแบบฉบับของตนเอง เช่น คนที่ชอบตัวเลขก็จะทำงานกับตัวเลขไป

ส่วนคนที่อยากกลับบ้านตรงเวลาก็จะหอบงานกลับไปทำที่บ้านด้วย เมื่อไหร่ก็ตามที่ทุกคนในทีมต่างทำงานด้วยความรู้สึกดีและได้ใช้ความสามารถของตัวเองให้เป็นประโยชน์ เมื่อนั้นทีมก็จะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในแต่ละวันคุณควรสังเกตว่าเพื่อนร่วมทีมทำงานโดยให้ความสำคัญกับสิ่งใด คุณอาจรู้ได้จากพฤติกรรมการทำงานหรือบทสนทนาบนโต๊ะอาหารก็ได้

เรียบเรียงข้อมูลก่อนไหว้วาน
เวลาขอให้คนอื่นทำอะไรสักอย่าง บางคนแค่บอกด้วยคำพูดสั้น ๆ เช่น “ทำเอกสารการประชุม 00 ด้วยนะ” “เอาข้อมูลพวกนี้ไปเขียนเป็นเอกสารนะ” และ “ที่เหลือให้ไปคิดเอง”ถ้าผมเจอเข้าแบบนี้ ผมจะพูดกับอีกฝ่ายว่า “กรุณาบอกความเป็นมาของงาน จุดมุ่งหมาย และกำหนดเวลาด้วยครับ” เมื่อรู้สิ่งเหล่านั้นแล้ว ผมจะทำงานได้อย่างถูกต้องเพราะทราบระดับความคาดหวังของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน
พอผมพูดไปแบบนั้นก็จะได้รับคำตอบที่ฟังดูเหมือนจะดีว่า “ที่เหลือก็คิดเอาเองสิจะได้เรียนรู้” ซึ่งจริง ๆ แล้วการตอบแบบนั้นเป็นการละเลยหน้าที่ของผู้ไหว้วานต่างหาก ให้นึกสงสัยไว้ก่อนเลยว่าคนที่พูดจาในลักษณะนี้เขาโยนงานที่รับมาจากหัวหน้าอีกที

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างการทำงานเป็นทีมกับการทำงานคนเดียวคือ ในการทำงานเป็นทีมนั้นสมาชิกในทีมต้องมีข้อมูลร่วมกันหรือรู้ความคิดของกันและกัน หากละเลยแม้เพียงเล็กน้อยก็จะเปลืองเวลาและค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น ดังนั้น คุณควรถ่ายทอดข้อมูลที่ตัวเองมีทั้งหมดเมื่อต้องไหว้วานคนอื่นให้ทำอะไร อย่างน้อยที่สุดก็ควรบอกความเป็นมา จุดมุ่งหมายกำหนดเวลา หรือความสำคัญของงานนั้นด้วยคำพูดที่เข้าใจง่าย การเรียบเรียงข้อมูลดังกล่าวเป็นหน้าที่ของผู้ไหว้วาน ถ้าสิ่งที่คุณทำคือรับงานจากหัวหน้าแล้วไปไหว้วานคนอื่นต่อ บริษัทก็ไม่จำเป็นต้องจ้างคุณหน้าที่ของผู้รับงานคือการเพิ่มคุณค่าให้กับงานนั้น ๆ โดยไม่จำเป็นต้องคิดหรือดันหาข้อมูลที่สมควรได้รับอยู่แล้วhttps://chezcaroline.com/